Multi-Brand Strategy "กลยุทธ์ใช้หลายแบรนด์ในตลาดเดียวกัน”กับพรรคการเมือง
- Learner.Center

- Aug 1
- 1 min read
Multi-Brand Strategy ในภาษาไทยอาจเรียกง่าย ๆ ว่า "กลยุทธ์ใช้หลายแบรนด์ในตลาดเดียวกัน” ซึ่งบางครั้ง “แบรนด์สู้กันเอง” ก็เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์นี้
Multi-Brand Strategy คืออะไร? คือ กลยุทธ์ที่บริษัทแม่เดียวกันสร้างหรือถือครองหลายแบรนด์ ที่อยู่ในหมวดหมู่สินค้าเดียวกัน เพื่อให้สามารถเจาะลูกค้าหลากหลายกลุ่มได้ในตลาดเดียวกัน
จุดประสงค์ของกลยุทธ์นี้
•ครองส่วนแบ่งตลาด ให้ได้มากที่สุด
•แยก Positioning ชัดเจน → ไม่ชนกันตรง ๆ แต่แย่งลูกค้าคนละกลุ่ม
•กีดกันคู่แข่ง: ถ้าตลาดเต็มไปด้วยแบรนด์ของตัวเอง คู่แข่งจะเจาะตลาดยากขึ้น
•สร้างความหลากหลายของภาพลักษณ์ → ลูกค้าเลือกแบรนด์ที่ “ตรงกับตัวเอง” ได้ง่ายขึ้น
สรุปง่าย ๆ:
กลยุทธ์ให้แบรนด์ “สู้กันเอง” เป็นเรื่องตั้งใจ เพื่อให้ ครองตลาดทุกกลุ่ม ไม่ได้ “สู้กันแบบเสียประโยชน์” แต่เป็น การวางหมาก ของบริษัทใหญ่เพื่อไม่ให้ลูกค้าไหลไปหา “คู่แข่งตัวจริง”

Multi-Brand Strategy (หลายแบรนด์ในตลาดเดียวกัน) ไปใช้กับ พรรคการเมือง
การนำแนวคิด Multi-Brand Strategy (หลายแบรนด์ในตลาดเดียวกัน) ไปใช้กับ พรรคการเมือง ถือเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะในบริบทที่ พรรคแม่ ต้องการ:
•ขยายฐานเสียงให้ครอบคลุมหลายกลุ่มประชาชน
•สื่อสารนโยบายแบบตรงใจเฉพาะกลุ่ม
•ปรับภาพลักษณ์ให้เหมาะกับแต่ละภูมิภาค / วัย / ความเชื่อ
•ลดแรงต่อต้านต่อพรรคหลัก (เช่น ภาพลักษณ์เดิมหรือปัญหาทางการเมือง)
🏛️ การประยุกต์ใช้ Multi-Brand Strategy กับ “พรรคการเมือง”
🔁 แนวคิด:
พรรคการเมืองแม่ → สร้าง “พรรคร่วม / พรรคน้อง / พรรคพันธมิตร”เพื่อให้แต่ละพรรค เจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ และ ลดแรงปะทะโดยตรง
🎯 ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ในโลกจริง
พรรคแม่/พันธมิตร | กลุ่มเป้าหมาย | ลักษณะเฉพาะ | กลยุทธ์ |
พรรค A (ใหญ่ / ทางการ) | คนเมือง / ข้าราชการ / ชนชั้นกลาง | ภาพลักษณ์สุภาพ ประนีประนอม | พรรคหลักในสภา |
พรรค A1 (พันธมิตร) | คนรุ่นใหม่ / นักกิจกรรม | ดุดัน เสียงดัง เรียกร้องชัด | ยึดพื้นที่โซเชียล มีมวลชน |
พรรค A2 (ท้องถิ่น) | คนต่างจังหวัด | ภาษาท้องถิ่น เน้นพื้นที่ | หาเสียงเชิงชุมชน |
พรรค A3 (พรรคคนรุ่นเก่า) | ผู้สูงอายุ / อนุรักษ์นิยม | ค่านิยมดั้งเดิม | ประสานฐานเสียงเดิม |
ข้อดีของการใช้แนวคิดนี้
•🔹 เข้าถึงฐานเสียงได้กว้างขึ้น
•🔹 สื่อสารแบบเฉพาะกลุ่มได้ชัดเจน
•🔹 ลดแรงต้านที่เกิดจากภาพจำของพรรคหลัก
🔹 ทำให้เกิด “ภาพของการมีทางเลือก” แม้เบื้องหลังเชื่อมกัน
🎯 ไม่ว่าประชาชนจะเลือกพรรคไหนในกลุ่มนี้ → พรรคแม่ได้ประโยชน์ทั้งหมด

🧭 กลยุทธ์นี้เคยเห็นในที่ใดบ้าง?
•🇹🇭 พรรคการเมืองไทยบางพรรค เคยใช้กลยุทธ์แบบนี้ในลักษณะ “พรรคร่วมเชิงเทคนิค”
•🇯🇵 ญี่ปุ่นมีหลาย “พรรคพันธมิตร” ที่ส่งเสริมกันโดยไม่ชนกันตรง ๆ
•🇺🇸 สหรัฐฯ ใช้กับ PACs (Political Action Committees) ที่มีอิสระแต่ช่วยสนับสนุนพรรคใหญ่
SCH & ChatGpt




Comments