อาชีพ กับ Ai

McKinsey คาดการณ์: อาชีพที่ AI จะไม่สามารถแทนที่ได้ภายในปี 2030

AI กับการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงาน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เข้ามามีบทบาทในแทบทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่งานที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมาก ไปจนถึงงานที่เกี่ยวข้องกับระบบอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดจาก McKinsey & Company ระบุว่า ยังมีอาชีพจำนวนมากที่ AI จะไม่สามารถแทนที่ได้ภายในปี 2030

Angela C. อดีตผู้บริหารด้านการตลาดของบริษัทในเครือ Fortune 500 ได้เผยแพร่บทความบน LinkedIn สรุปสาระสำคัญของรายงานจาก McKinsey ว่า แม้ AI จะมีความสามารถที่ก้าวหน้า แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในหลายด้าน โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ ความคิดสร้างสรรค์ การตัดสินใจที่ซับซ้อน และความสามารถในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์

✍🏻ทำไมบางอาชีพยังคงอยู่แม้ AI จะพัฒนาไปไกล

ถึงแม้ AI จะสามารถทำงานที่ซับซ้อนขึ้นได้ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การประมวลผลภาษาธรรมชาติ และการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) แต่ AI ยังขาดความสามารถในการเข้าใจอารมณ์ มนุษยสัมพันธ์ และบริบทของสถานการณ์ที่หลากหลาย ซึ่งทำให้บางอาชีพยังมีความจำเป็นอย่างสูง

จากรายงานของ McKinsey มีการระบุว่า อาชีพที่ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ ทักษะทางสังคม และความสามารถในการแก้ปัญหาที่ไม่มีโครงสร้างชัดเจน จะยังคงมีความต้องการสูง แม้ว่า AI จะเข้ามามีบทบาทในตลาดแรงงาน

8 อาชีพที่ AI จะไม่สามารถแทนที่ได้ในปี 2030

(อ้างอิงจาก McKinsey, World Economic Forum และ Harvard Business Review)

1. แพทย์เฉพาะทาง และศัลยแพทย์

   •   แม้ AI จะช่วยในเรื่องของการวินิจฉัยโรคและช่วยผ่าตัดได้ แต่ การรักษาผู้ป่วยต้องใช้ความสามารถในการตัดสินใจเฉพาะหน้า การสื่อสาร และความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) ซึ่ง AI ยังทำไม่ได้

   •   ตัวอย่างอาชีพ: ศัลยแพทย์, แพทย์เฉพาะทาง เช่น โรคหัวใจ ประสาทวิทยา

2. โค้ช (Coach) และที่ปรึกษาด้านพัฒนาตัวเอง

   •   อาชีพโค้ชต้องอาศัย ทักษะการตั้งคำถามเชิงลึก การฟัง และการช่วยให้ผู้รับการโค้ชเกิดความตระหนักรู้ในตัวเอง ซึ่ง AI ยังไม่มีความสามารถเพียงพอ

   •   AI อาจช่วยให้คำแนะนำทั่วไปได้ แต่ไม่สามารถเข้าใจอารมณ์และบริบทของแต่ละบุคคล

   •   ตัวอย่างอาชีพ: โค้ชด้านชีวิต (Life Coach), โค้ชธุรกิจ (Business Coach), โค้ชด้านภาวะผู้นำ

3. ครู อาจารย์ และนักการศึกษา

   •   AI อาจช่วยในการสอนเนื้อหาวิชาการได้ แต่ การสอนที่มีประสิทธิภาพต้องใช้การสื่อสาร การเข้าใจผู้เรียน และการสร้างแรงบันดาลใจ

   •   ตัวอย่างอาชีพ: ครูระดับมัธยม, อาจารย์มหาวิทยาลัย, นักการศึกษา

4. ศิลปิน นักออกแบบ และนักสร้างสรรค์

   •   แม้ AI สามารถสร้างภาพ วาดรูป หรือแต่งเพลงได้ แต่ AI ยังขาดความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานที่มีมิติทางอารมณ์และความหมายเชิงลึก

   •   ตัวอย่างอาชีพ: นักวาดภาพ, นักแต่งเพลง, นักออกแบบแฟชั่น

5. นักจิตวิทยา และนักให้คำปรึกษาด้านอารมณ์

   •   งานด้านสุขภาพจิตต้องใช้ ความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับอารมณ์และพฤติกรรมของมนุษย์ ซึ่ง AI ยังไม่สามารถแทนที่ได้

   •   ตัวอย่างอาชีพ: นักจิตวิทยาคลินิก, นักบำบัด, นักให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิต

6. นักกฎหมาย และนักวิเคราะห์ทางกฎหมาย

   •   แม้ AI จะสามารถค้นหาข้อมูลทางกฎหมายและวิเคราะห์เอกสารได้ แต่ การตีความกฎหมายและการเจรจาคดีความต้องใช้ทักษะของมนุษย์ที่ซับซ้อนกว่า

   •   ตัวอย่างอาชีพ: ทนายความ, อัยการ, นักวิเคราะห์ด้านกฎหมาย

7. นักขาย นักเจรจาต่อรอง และที่ปรึกษาทางธุรกิจ

   •   งานขายต้องอาศัย การโน้มน้าวใจ การเข้าใจอารมณ์ของลูกค้า และการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว ซึ่ง AI ยังไม่สามารถทำได้ดีเท่ามนุษย์

   •   ตัวอย่างอาชีพ: นักขาย, นักเจรจาต่อรอง, ที่ปรึกษาธุรกิจ

8. นักวิจัย และนักคิดค้นนวัตกรรม

   •   แม้ AI จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว แต่ การคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ต้องอาศัยมนุษย์ที่สามารถเชื่อมโยงแนวคิดในมุมมองที่ AI ยังคิดเองไม่ได้

   •   ตัวอย่างอาชีพ: นักวิทยาศาสตร์, นักวิจัยเทคโนโลยี, นักพัฒนา AI

AI จะเปลี่ยนโลกของการทำงาน แต่จะไม่แทนที่ทุกอาชีพ

จากรายงานของ McKinsey สรุปว่า AI จะไม่ทำให้คนตกงานทั้งหมด แต่จะเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของมนุษย์ งานบางประเภทจะถูกแทนที่โดยระบบอัตโนมัติ แต่งานที่ต้องใช้ ความคิดสร้างสรรค์ ความฉลาดทางอารมณ์ และการตัดสินใจที่ซับซ้อน ยังคงเป็นสิ่งที่ AI ไม่สามารถทำแทนมนุษย์ได้

ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับมนุษย์ในยุค AI คือการพัฒนาทักษะที่ AI ไม่สามารถทำได้ เช่น:

✅ ทักษะการคิดสร้างสรรค์ (Creativity)

✅ ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence)

✅ การตัดสินใจเชิงซับซ้อน (Complex Decision-Making)

✅ การสื่อสารและการปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ (Human Interaction & Communication)

AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงตลาดแรงงาน แต่รายงานของ McKinsey ยืนยันว่า ยังมีอาชีพที่ AI ไม่สามารถแทนที่ได้ภายในปี 2030 โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ความคิดสร้างสรรค์ และการตัดสินใจที่ซับซ้อน

ดังนั้น การพัฒนาทักษะที่ AI ทำไม่ได้ จะช่วยให้คุณยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต และสามารถทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

📌 อ้างอิง:

   •   McKinsey Report: Jobs Won’t Be Replaced by AI in 2030

   •   Harvard Business Review – How to Coach Employees Through a Crisis

   •   World Economic Forum – Future of Jobs Report 2023

   •   Oxford University – The Future of Employment